วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ลองเปลี่ยนมุมมองกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

SELAMAT TAHUN BARU 2011
ขออนุญาตสวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๔ สู่ทุกท่านด้วยภาษาท้องถิ่นของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ครับ 
         
           ก่อนข้ามผ่านปีนี้ไป อะไรหลาย ๆ อย่าง ที่อยู่รอบตัวผมเปลี่ยนแปลงไปทั้งในทางที่ดีขึ้น และอาจจะมีลดลง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านสุขภาพกาย สุขภาพใจ ไม่ว่าด้านสังคม ด้านการเรียน การทำงาน และด้านอื่น ๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมและคนรอบกายมีความสุขนั้น ถึงแม้ที่ผ่านมาสิ่งที่แสดงและนำเสนอสู่สายตาชาวไทย อาจจะเป็นความเลวร้ายที่ไม่ยอมสิ้นสุด ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งสิ่งนั้นที่กล่าว  คือ เหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และส่งผล  ต่อประเทศชาติอย่างมากมาย ผมคือ คน ๆ หนึ่งที่ครอบครัวมีรากฐานอยู่ในพื้นที่จังหวัดปัตตานีมาตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ มากมายอย่างต่อเนื่อง ที่คิดว่าชีวิตนี้ไม่เปลี่ยนผืนดินที่อยู่อีกแล้ว  หลังจากที่ทุกท่านได้รับข้อมูลข่าวสารที่ค่อนข้างเป็นด้านลบ หรือทำให้ พี่น้องประชาชนในพื้นที่อื่น ๆ รู้สึกหวาดกลัวและเป็นห่วงผู้คนในพื้นที่แล้ว
          
          วันนี้เป็นวันหนึ่งที่ผมได้อยู่บ้านและออกไปสัมผัส รวมถึงได้เห็นและคิดอะไรหลาย ๆ อย่าง เกี่ยวกับสิ่งรอบตัวในพื้นที่จังหวัดปัตตานีตอนนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรายวัน ผมอาจไม่อยากพูดถึงมัน เพราะนั่นอาจเป็นสิ่งหนึ่งที่ติดตาประชาชนชาวไทย ว่าพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่มีความปลอดภัย แต่สิ่งที่เสนอออกไปทางสื่อต่าง ๆ นั้น เป็นเพียงแค่ 1 จุดเล็ก ๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพียงเท่านั้น ซึ่งความเป็นจริงแล้วประชาชนในพื้นที่อยู่กันอย่างปกติสุข ทั้งไทยพุทธ ไทยมุสลิม ไทยคริสต์ และไทยจีน เราอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน รักและสามัคคีกัน เพื่อปกป้องแผ่นดินผืนนี้
 
          ถ้าเป็นไปได้สิ่งที่จะนำเสนอออกไปสู่สายตาประชาชนนั้น ขอให้เป็นเพียงพื้นที่เล็ก ๆ ที่สำหรับประชาชนที่ต้องการติดตามข่าวสารเท่านั้น ส่วนการให้ความสำคัญนั้น เราให้ความสำคัญเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์  อยู่แล้ว เพียงเพราะเราไม่ต้องการให้ภาพที่มันไม่ดีเหล่านี้ ส่งผลกระทบต่อหลาย ๆ ด้าน ทั้งประชาชนในพื้นที่ และเศรษฐกิจ
 
          เราลองมาเปลี่ยนมุมมองใหม่ ๆ กันน่ะครับ ซึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัดตอนนี้ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นั่นคือ เศรษฐกิจที่กำลังฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า Big C ปัตตานี ที่ครองแชมป์ ทำยอดรายได้สูงสุด อีกทั้งธุรกิจต่าง ๆ อีกมากมาย ที่ก่อกำเนิด และคาดว่าจะทำให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กลับมารุ่งเรืองเหมือนดังเดิม ,Pattani Place สถานที่ที่คาดว่าจะดึงดูดการ   ลงทุน จากนักธุรกิจจากทั้งในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน ที่ตอนนี้กำลังดำเนินการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง โดยใน Pattani Place นั้น มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น IEC (International Education Center) สำหรับบริการด้านการศึกษานานาชาติแห่งใหม่ในภาคใต้ ที่จะเป็นจุดหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมสมรรถภาพทางการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่ Pattani Hotel เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ราคาระดับ 3 ดาว Condotel จำนวน 4 อาคาร บริการที่พักสำหรับนักศึกษาและบุคคลทั่วไปย่านมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และพื้นที่ีข้างเคียง Home office 13 Unit สำหรับเป็นสถานที่ให้บริการแก่สถาบันกวดวิชา และร้านค้าอุปกรณ์การศึกษา และอื่น ๆ อีกมากมายใน Pattani Place อีกทั้งแหล่งธุรกิจต่าง ๆ ในจังหวัดปัตตานี ซึ่งนี่คือ สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้า และการพัฒนา อย่างต่อเนื่องจุดหนึ่ง ของปัตตานีเท่านั้น ,ปัตตานีเซนเตอร์ ที่เปลี่ยนรูปแบบจาก ตลาดนัดเปิดท้ายแบบเดิม ๆ มาเป็นแหล่งเศรษฐกิจ ที่อาจก่อให้เกิดความมั่นคงต่อประชาชน ที่ลงทุนค้าขาย และก่อให้เกิดเงินหมุนเวียน ที่สามารถสร้างโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ ในการลงทุน และค้าขาย

          การส่งเสริม และบำรุงรักษาสถานที่ท่องเที่ยว ในจุดต่าง ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นชายหาด หรือจุดท่องเที่ยวใหม่ ๆ อีกทั้งโบราณสถาน และสถานที่สำคัญ เช่น มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ที่นับได้ว่าเคยติดอันดับ มัสยิดที่สวยที่สุดในประเทศไทย แต่สิ่งใดนั้นไม่สำคัญเท่ากับความสำคัญด้านจิตใจ ในการประกอบศาสนกิจของพี่น้องชาวมุสลิม มัสยิดกรือเซะ และ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ที่วางอยู่เคียงคู่กันในตัวเมืองกรือเซะ วังเจ้าเมืองยะหริ่ง ซึ่งอยู่ใกล้บ้านผมเองครับ ที่ยังคงความสมบูรณ์ตามแบบฉบับ วังเก่ามุสลิมในอดีต ซึ่งปัจจุบันยังคงมีเชื้อสายพำนักอยู่ที่นี่ และสถานที่ต่าง ๆ อีกมากมายในจังหวัดปัตตานี

          ส่วนจังหวัดนราธิวาส ยังคงมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งป่าพรุโต๊ะแดง ,มัสยิดตะโล๊ะมาเน๊าะ ที่ตอนนี้มีอายุร่วม 300 กว่าปีแล้ว อีกทั้งจังหวัดนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อ และทำการค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศมาเลเซียด้วย

          จังหวัดยะลา จังหวัดที่มีการวางผังเมืองได้เป็นระเบียบในรูปแบบวงกลมซ้อนกัน อีกทั้งเขื่อนบางลางที่คงความอุดมสมบูรณ์อย่างเต็มเปี่ยม รวมถึงอำเภอเบตง  อำเภอเบตง นับว่าเป็นเมืองในเขาที่สวยงาม ไม่แพ้เมืองที่มีภูเขาอย่างดอยต่าง ๆ ตามจังหวัดทางภาคอื่น ๆ ที่มีทั้งสวนดอกไม้เมืองหนาว วัฒนธรรมพื้นเมือง และการเชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซียได้อีกทางหนึ่ง ในการทำการค้าขาย

          จากสิ่งที่ผมกล่าวผ่านมานั้น เป็นเพียงแค่ จุดบางจุดเท่านั้น แต่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นี้ ยังคงมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และทรัพยากรที่รอคอยให้เราสัมผัสอีกมากมาย ถึงแม้ว่าในสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น อาจไม่เพียบพร้อมมากนักก็ตาม แต่จิตใจของคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตอนนี้นับได้ว่าเข้มแข็ง และพร้อมต่อสู้ กับสิ่งที่เผชิญในปัจจุบัน และในอนาคตที่จะเกิดขึ้นต่อไป

          ซึ่งผมขออนุญาตเป็นตัวแทนของประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  ขอขอบคุณทุกกำลังแรง และกำลังใจ จากคนไทยทั้งประเทศ ที่ส่งมายังพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างไม่ขาดสาย และเต็มเปี่ยมด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง ที่ไม่สามารถนับค่าได้ ซึ่งมันมหาศาลมาก "น้ำใจไทยทั้งชาติ" 

          วิธีหนึ่งที่ผมอยากลองแนะนำ สำหรับผู้ที่สนใจอยากลงมาในพื้นที่จริง ๆ แต่ยังไม่กล้ามาแบบเต็ม ๆ
 ลองลงมาเที่ยวเบตงแบบที่ผมกำลังจะแนะนำสิครับ แล้วคุณจะรู้ ลองลงมาลองเชิง ดูว่าเป็นอย่างไร แล้วคุณจะรัก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  คือ  เริ่มแรกลงมาหาดใหญ่ แล้วนั่งรถเข้าทางด่านของประเทศมาเลเซีย (ด่านนอก) ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียง และออกจากด่านมาเลเซียเข้าไปยัง อำเภอเบตง ซึ่งถ้าใช้วิธีนี้ ท่านอาจไม่ต้องผ่านเส้นทางที่ท่านคิดว่า มันน่ากลัว หรืออาจเสี่ยง แล้วจากนั้นคุณก็จะพบกับดินแดนที่คุณจะหลงรักมันในที่สุด อีกทั้งคุณยังคุ้ม ได้ท่องเที่ยวใน 2 ประเทศ และช๊อปปิ้งในแหล่งต่างๆ ของทั้ง 2 ประเทศ หลังจากนั้น คุณก็จะได้เริ่มสัมผัส กับผู้คนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพัฒนาการจนหลงรักสิ่งเหล่านั้นในที่สุด นี่เป็นเพียงแค่วิธีหนึ่งเท่านั้นครับ แต่อีกหลากหลายวิธี และอีกหลากหลายอย่างใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่รอคอยให้ทุกท่านได้มาร่วมกันประสาน และส่งเสริม 

          ทุกอย่างที่ผมได้เล่าให้ฟังในวันนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นน่ะครับ ที่ 
          ผมและประชาชนในพื้นที่ หวังเพียงว่าจุดเล็ก ๆ จุดนี้ อาจได้ลบภาพเลวร้ายที่เกิดขึ้นตลอดมา ไม่มากก็น้อย ที่ติดตาทุกท่านอยู่ เพียงเท่านี้ก็ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความสุขเล็ก ๆ แล้วล่ะครับ

          นอกสิ่งอื่นใด ผมหวังว่าเรื่องราวเหล่านี้ คงได้เล่าต่อ ๆ ไป ยังพี่น้องชาวไทย ในการส่งความสุข และอาจเป็นของขวัญชิ้นเล็ก ๆ แก่คนในพื้นที่แล้วล่ะครับ
 

มาร่วมกัน
"กอดเมืองไทย" "กอดสามจังหวัดชายแดนภาคใต้" "กอดทุกสิ่งอย่าง"
ที่เป็นของไทยทั้งชาติกันน่ะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น